ก่อนอื่นต้องขอเล่าถึงความเป็นมาก่อนว่าทำไมผมถึงมาเรียนที่มาเลเซีย ที่อยากจะเล่าก็เนื่องจากก่อนที่จากประเทศไทยมาผมไม่ได้เล่าให้ใครฟังเท่าไรว่าผมจะมาเรียนที่มาเลย์ เพื่อนๆหลายๆคนคงสงสัยว่าทำไมถึงตัดสินใจมาเรียนที่มาเลย์
ประการแรก ถึงแม้ว่าผมกำลังเรียนโทที่จุฬาฯ ปีสองแล้วก็ตาม แต่ผมรู้สึกว่าปริญญาโทที่ผมเรียนอยู่นั้นได้ไม่ได้เป็นที่ต้องการของตลาดวิชาการในประเทศจริงๆ และผมก็ตอบตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าจะใช้ปริญญาโทกฎหมายมหาชนไปทำอะไร เพราะหากจะใช้เพื่อสมัครเข้าเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่ก็จะให้เครดิตกับโทนอกมากกว่า ดังนั้นผมเกิดความรู้สึกไม่ดีว่า ทำไมเด็กที่จบโทกฎหมายในประเทศ หากต้องการตำแหน่งดีๆก็ต้องไปขวนขวายหาโทนอกมาประกอบ(ทั้งๆที่ความเป็นจริงโทในน่าจะเรียนจบยากกว่าโทนอกเสียอีก) คิดได้ดังนั้น โทในอีกสาขาหนึ่งที่เป็นสาขานอกเหนือจากกฎหมายที่ร่ำเรียนมาห้าปีเต็มก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
ประการที่สอง ผมคิดว่าการมาเรียนที่ประเทศมาเลเซียจะเป็นประโยชน์ต่อผมมากเพราะผมมีสัมพันธ์ที่ดีกับนักเรียนเก่า Malay College ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีความสัมพันธ์อันดีกับวชิราวุธวิทยาลัยมาอย่างช้านาน หากผมได้สานสัมพันธ์ที่ดีให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นก็จะทำให้ผมมีโลกทัศน์ที่กว้างขึ้น ผมยังรู้สึกอีกว่าเพื่อนบ้านเรานี้แหละที่น่าสนใจ หากเราไม่ศึกษาเรื่องของเราเอง หากเราไม่เข้าใจวัฒนธรรมที่เป็นอยู่ในภูมิภาคของเรา การนำเข้าวัฒนธรรมตะวันตกมาใช้ในประเทศก็จะผิดเพี้ยนไปจากที่ควรจะเป็น เรื่องนี้คงไม่ต้องขยายความเพราะผมคิดว่าเราคนไทยต่างก็รู้กันดีอยู่แล้ว
ประการที่สาม ตัวแปรสำคัญที่ทำให้ตัดสินใจได้ก็คือ ทุนนี้เป็นทุนเต็ม ได้ทั้งค่าเล่าเรียน กินอยู่ ที่หลับที่นอน เรียกจะได้ว่าฟรีเกือบทุกอย่าง แม้ว่าจะต้องกลับไปใช้ทุนที่จุฬาฯก็ตาม กระนั้น ผมก็ยังสามารถประหยัดเวลาในการเรียนโทได้อีกโข
คิดได้ดังนี้ ผมก็เลยตัดสินใจว่าหนึ่งปีข้างหน้านี้จะไปแสวงหาประสบการณ์ใหม่ๆจากบ้านใกล้เรือนเคียงนี้ละครับ
2 comments:
สวัสดีค่ะ . . ตอนนี้พี่ยังอยู่ที่ m'siaหรือป่าวค่ะ พอจะมีข้อมูลเกี่ยวกับคนไทยที่ไปทำงานที่โน้นบ้างมั้ยค่ะ ยังงัยรบกวนด้วยนะค่ะ ha_nok@yahoo.com
ถ้าพี่เรียนอย่มาเลเซียน
จะขอคำแนะนำหน่อยอ่ะค่ะ
เพราะเดี๋ยวจะไปเรียนมาเลเซียแลบเวว
Post a Comment