15 December 2006

นิสิตกับม.ออกนอกระบบ

เมื่อวานเย็น(14 ธ.ค.49) ติดตามอ.นิวไปเสวนาเรื่อง ม.นอกระบบใครได้ใครเสีย ห้องประชุมวิศวะฯ จัดโดยสภานิสิตจุฬาฯ ผู้ฟังมีทั้งนิสิตและอาจารย์คนนอกก็มีอยู่บางเท่าที่ได้คุยก็มีนักศึกษาจากธรรมศาสตร์กลุ่มหนึ่งกับ ม.กรุงเทพฯอีกกลุ่ม ผมว่าคนที่มาฟังนิสิตจะดูกลางๆและอยากรู้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใน แต่พวกอาจารย์นี้ไม่ได้มาฟังเป็นเป้าหมายหลัก หากแต่มาพูดกับมาดักคอฝ่ายบริหารเสียเป็นส่วนใหญ่ งานนี้ดีที่มีท่านจรัญฯ ปลัดยุติธรรมมาด้วย อย่างไรก็ตามฝ่ายที่คัดค้านพูดนอกเรื่องนอกประเด็นเสียมาก เขาให้มาพูดว่านิสิตจะได้อะไรเสียอะไร แต่กลับมาสอนถึงรัฐสวัสดิการ ทำไมต้องออก ออกแล้วจะดีได้อย่างไร หาตรรกะไม่ค่อยได้ ข้อมูลเท็จก็มีเยอะ เอาว่าไม่ใช่แค่ผิดหรือพลาด แต่เล็งเห็นผลเลยละครับ ผมละสะเทือนใจมากที่เห็นอาจารย์จุฬาฯเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าจะมารยาทในการเสวนา การให้เกียรติกันในฐานะอาจารย์ หรือมารยาทในการเป็นผู้ฟังที่ดีและรับฟังคนอื่น ผมเพิ่งมารู้ว่าในที่ๆมีแม่พิมพ์ที่ดีสุดในประเทศซึ่งประกอบด้วยคนที่มีความรู้ดีที่สุด แต่นั้นไม่ได้รับประกันว่าอาจารย์เหล่านั้นจะเป็น "ผู้ดี" ในสายตาของผมเลย ไม่เถียงในประเด็นความรู้ที่ท่านมี แต่ขอสอนในเรื่องมารยาทของผู้ดีหน่อยนะครับ จะเป็นรัฐสวัสดิการหรือไม่ ไม่สำคัญ หากท่านอาจารย์เพื่อประชาธิปไตยเหล่านั้นยังไม่เข้าใจว่าการรับฟังที่ดีเป็นอย่างไร เสียแรงเปล่าครับที่จะสู้เพื่อประชาธิปไตย
งานนี้ต้องขอชมอาจารย์จรัญมาก สอนให้รู้ว่า "สงบนิ่ง สยบความเคลื่อนไหว" นั้นเป็นอย่างไร เพชรนั้นแม้จะถูกแทะ ถูกนำไปคลุกกับความโสโครก เพชรก็ยังเป็นเพชร ทนงในศักดิ์ศรีของตนเองและไม่สนว่าใครจะว่าอย่างไร เรารู้ตัวดีเองว่าเราเป็นอย่างไรเดียวคนที่เอาค้อนมาทุบเพชรก็เจ็บมือไปเอง.....
สำหรับเรื่อง ม.นอกระบบขอพักไว้ก่อนนะครับ ขออย่างเดียวว่าให้มีข้อมูลที่แท้จริงในมือ อ่านกฎหมายที่ร่างมา อย่าฟังข้างเดียว เอาตนเองเป็นหลักอย่าตามกระแสที่คนอื่นปลุกปั้นมาให้ หากคุณค้านเพราะคุณเข้าใจว่ามันไม่ดีจริงบนข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน ผมก็ไม่อาจตำหนิคุณได้เลยแถมจะยกย่องคุณอีกด้วย เพราะหัวใจของคำว่าประชาธิปไตยส่วนหนึ่งคือ "เป็นผู้ฟังที่ดี และยอมรับความคิดที่แตกต่าง"

1 comment:

Unknown said...

สงสัยจะเป็นเพราะคนไทยส่วนหนึ่ง (หรือส่วนใหญ่?) ไม่เชื่อมใน "ระบบสังคมเปิด" คือไม่ค่อยรับฟังความคิดเห็นต่าง

ใครเห็นต่างจากเรา เราก็จัดการเห็นว่าคนนั้นเป็นศัตรูทันที ทั้ง ๆ ที่ บางครั้ง "ศัตรูทางความคิด" อาจเป็น "มิตร" ที่ดีที่สุดก็ได้

เรียกว่า เป็นวัฒนธรรมทางการเมืองที่มีระดับความเป็นประชาธิปไตย "ต่ำมาก" ครับ